สำนักงานคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) แถลงผลการนับคะแนนเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบแบ่งเขตอย่างเป็นทางการ 100 เปอร์เซ็นต์ พบว่าคะแนนเสียงมหาชน (ป๊อบปูลาร์โหวต) ของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ขยับไปอยู่ที่ 8.4 ล้านเสียง จากเดิมที่พรรคคาดเบื้องต้นว่าได้ 7.9 ล้านเสียง

เวลา 14.45 น. นายกฤช เอื้อวงศ์ รองเลขาธิการ กกต. แถลงผลการนับคะแนนการเลือกตั้ง ส.ส. ซึ่ง กกต. ได้รับมาจาก กกต.จว. ทั้ง 77 จังหวัด โดยพบว่าพรรคการเมืองที่ส่งผู้สมัคร ส.ส. รวม 81 พรรค ได้รับคะแนนเสียงรวมกัน 35,532,647 คะแนน สำหรับพรรค 5 อันดับแรก มีดังนี้

  • พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) 8,433,137 เสียง
  • พรรคเพื่อไทย (พท.) 7,920,630 เสียง
  • พรรคอนาคตใหม่ (อนค.) 6,265,950 เสียง
  • พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) 3,947,726 เสียง
  • พรรคภูมิใจไทย (ภท.) 3,732,883 เสียง

สำหรับคะแนนที่ กกต. เปิดเผยนี้มาจากผู้สมัคร ส.ส. แบบแบ่งเขตทั้งสิ้น 11,181 คน แต่ถูกตัดสิทธิลงสมัครไป 572 คน คงเหลือผู้สมัคร 10,609 คน

การเปิดแถลงผลการเลือกตั้งของสำนักงาน กกต. ในครั้งนี้ เกิดขึ้นเร็วกว่ากำหนดเดิมที่นัดหมายสื่อมวลชนไว้ในวันที่ 29 มี.ค. และยังเป็นการเปิดคะแนน 100 เปอร์เซ็นต์เต็ม จากเดิมที่ระบุว่าจะให้ผลคะแนนเพียง 95 เปอร์เซ็นต์ ส่วนคะแนนเต็มจะไปทราบในวันที่ 9 พ.ค. ทว่าได้ถูกนักเลือกตั้ง นักวิชาการ สื่อมวลชน และผู้ใช้งานสื่อสังคมออนไลน์วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก

นายกฤชให้เหตุผลด้วยว่า สาเหตุที่จำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งสูงขึ้นกว่าเดิมมาก เป็นเพราะในช่วงที่ประธาน กกต. แถลงได้อ้างอิงฐานข้อมูลการนับคะแนนที่ 93 เปอร์เซ็นต์

บีบีซีไทยตรวจสอบคะแนนเสียงมหาชนของ 2 ขั้วการเมืองที่กำลังชิงกันเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล

พรรคที่เรียกตัวเองว่า "พรรคฝ่ายประชาธิปไตย" มีคะแนนเสียงรวมกัน 15.97 ล้านเสียง (ถ้านับ ศม. เป็น 16.45 ล้านเสียง)

  • พรรคเพื่อไทย (พท.) 7,920,630 เสียง
  • พรรคอนาคตใหม่ (อนค.) 6,265,950 เสียง
  • พรรคเสรีรวมไทย (สร.) 826,530 เสียง
  • พรรคประชาชาติ (ปช.) 485,436 เสียง
  • พรรคเพื่อชาติ (พ.พ.ช.) 419,393 เสียง
  • พรรคพลังปวงชนไทย (พลท.) 81,733 เสียง
  • *พรรคเศรษฐกิจใหม่ (ศม.) 485,664 เสียง

พรรคที่สนับสนุน พล.อ. ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ต่อไป มีคะแนนเสียงรวมกัน 8.84 ล้านเสียง

  • พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) 8,433,137 เสียง
  • พรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) 416,234 เสียง

ส่วนสถิติที่น่าสนใจอื่น ๆ ที่ กกต. แถลง มีดังนี้

  • ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 51,239,638 คน
  • ผู้ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง 38,268,375 คน หรือคิดเป็น 74.69 เปอร์เซ็นต์
  • ผู้ออกไม่มาใช้สิทธิเลือกตั้ง 12,971,263 คน หรือคิดเป็น 25.31 เปอร์เซ็นต์
  • บัตรดี 35,532,645 ใบ หรือคิดเป็น 92.85 เปอร์เซ็นต์
  • บัตรเสีย 2,130,327 ใบ หรือคิดเป็น 5.57 เปอร์เซ็นต์
  • บัตรไม่ประสงค์ลงคะแนน (โหวตโน) 605,093 ใบ หรือคิดเป็น 1.58 เปอร์เซ็นต์

รองเลขาธิการ กกต. ระบุว่า ปัจจุบัน กกต. รับเรื่องร้องเรียนไว้ทั้งสิ้น 186 เรื่อง ส่วนมากจะเกิดใกล้ ๆ วันเลือกตั้ง ซึ่ง กกต. จะมีการตรวจมูลกรณีก่อน และตั้งกรรมการขึ้นมาไต่สวน ขณะนี้ยังไม่มีการตั้งธงว่าจะให้ใบเหลืองหรือใบแดงจำนวนเท่าใด